สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ การเมือง เศรษฐศาสตร์ >>
กรณีปราสาทพระวิหาร
ข้อมูลที่ประชาชนไทยควรทราบ เกี่ยวกับกรณีปราสาทพระวิหาร และการเจรจาเขตแดนไทย - กัมพูชา
50 ประเด็น ถาม-ตอบ กรณีปราสาทพระวิหาร
สรุปข้อมูลสถานะของคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี
2505
ลำดับเหตุการณ์ที่สำคัญเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร
กระทรวงการต่างประเทศ
การแก้ไขปัญหาไทย - กัมพูชา
ในกรอบศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ
กัมพูชาขอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศตีความ
คำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร 2505
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2554 กัมพูชาได้ยื่นคำขอให้ศาลยุติธรรม
ระหว่างประเทศ (International Court of Justice - ICJ) หรือที่รู้จักกัน
ทั่วไปว่า ศาลโลก ตีความคำพิพากษาในคดีปราสาทพระวิหารที่ศาลฯ
ได้ตัดสินไปเมื่อ พ.ศ. 2505 โดยระบุว่า ไทยกับกัมพูชามีประเด็นที่เห็น
ขัดแย้งกันเกี่ยวกับความหมายหรือขอบเขตของคำพิพากษาดังกล่าว และ
ขอให้ศาลฯ ตีความคำตัดสินว่า พันธกรณีของไทยที่จะต้องถอนทหาร
ตำรวจ ผู้เฝ้ารักษาหรือผู้ดูแล ออกจากปราสาทหรือบริเวณใกล้เคียง
ปราสาทในดินแดนกัมพูชานั้น เป็นผลมาจากพันธกรณีทั่วไปของไทยที่จะ
ต้องเคารพบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา ซึ่งดินแดนนั้นได้มีการกำหนด
ขอบเขตในบริเวณปราสาทและพื้นที่ใกล้เคียงแล้วโดยแผนที่ภาคผนวก 1
(กล่าวคือ แผนที่มาตราส่วน 1 : 200,000 ระวางดงรัก ที่กัมพูชาใช้แนบ
คำฟ้องของกัมพูชาในคดีปราสาทพระวิหาร พ.ศ. 2505) ซึ่งฝ่ายกัมพูชา
อ้างว่า ศาลฯ ใช้เป็นพื้นฐานของคำตัดสิน กล่าวโดยสรุปก็คือ กัมพูชาขอให้
ศาลฯ ตัดสินว่า ไทยมีพันธกรณีที่ต้องเคารพบูรณภาพแห่งดินแดนของ
กัมพูชา ซึ่งดินแดนนั้นถูกกำหนดขอบเขตในบริเวณปราสาทพระวิหารและ
พื้นที่ใกล้เคียงโดยเส้นที่ปรากฏบนแผนที่ภาคผนวก 1
คำขอของกัมพูชาให้ศาลตีความคำพิพากษา ปี 2505
โดยที่ศาลได้ตัดสินใน ปี 2505 ว่า ...ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ใน ดินแดนภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ดังนั้น กัมพูชาจึงขอให้ศาลฯ ตัดสินว่าพันธกรณีของไทยที่จะต้อง ถอนกำลังทหารหรือตำรวจ หรือผู้รักษาการณ์ หรือผู้ดูแลอื่น ๆ ที่ประเทศไทยได้วางไว้ที่ปราสาท หรือในพื้นที่ใกล้เคียงใน ดินแดนของกัมพูชา เป็นผลมาจากพันธกรณีทั่วไปของไทยที่จะต้องเคารพ บูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา ซึ่งดินแดนนั้นถูกกำหนดขอบเขตใน บริเวณปราสาทพระวิหารและพื้นที่ใกล้เคียงโดยเส้นของแผนที่ภาคผนวก 1 ซึ่งศาลฯ ใช้เป็นพื้นฐานของคำตัดสิน



ค้นหาข้อมูล คลิก!


